Our work in Thailand

Our work in Thailand

WHO & Royal Thai Government: Partnering for a Healthier Thailand

The World Health Organization (WHO) is dedicated to improving the health and well-being of everyone in Thailand. Working hand-in-hand with the Royal Thai Government and a wide range of partners, the WHO's sixth Country Cooperation Strategy (CCS) for 2022-2026 outlines a collaborative approach to achieving this goal. 

 

A Collaborative Approach

The CCS represents a shared commitment to improving health in Thailand. Over 60 stakeholders, spanning government agencies, academia, and civil society, are actively collaborating to tackle key health challenges. The WHO serves as a facilitator, leveraging its expertise and influence to drive this broad partnership.

WHO Thailand’s work

WHO’s work in Thailand is based on the Country Cooperation Strategy (CCS) 2022 - 2026, it describes WHO’s medium-term strategic vision to guide the Organization’s work in Thailand. Most importantly, it describes six priority programmes on which the Ministry of Public Health in Thailand, its numerous partners, and the World Health Organization will work jointly over the next 5 years. These programmes address some of the critical public health issues facing Thailand in its unique context – an upper-middle-income country that has pioneered universal health coverage and that is committed to improving health through knowledge generation, evidenced-based policy, and social/political action. It works to improve systems needed to implement national health policies, strategies and plans, and to achieve national targets under the Sustainable Development Goals.

Key Focus Areas

The CCS outlines six strategic priorities, addressing crucial health challenges in Thailand:

  • Digital Health: Streamlining digital health platforms and health information systems for improved healthcare delivery.
  • Enhancing Leadership in Global Health (EnLIGHT) : Strengthening Thailand's role as a leader in global health initiatives.
  • Migrant Health: Improving healthcare services and access for migrant populations.
  • Noncommunicable Diseases: Addressing the burden of diseases like heart disease, cancer, and diabetes through prevention and control efforts.
  • Public Health Emergencies: Enhancing preparedness and response capabilities to effectively manage health emergencies.
  • Road Safety: Reducing road traffic accidents and injuries through targeted interventions.

Features activities

All →

Publications and information resources

All →
Mekong Malaria Elimination Programme epidemiology summary, volume 30, April-June 2025

The Mekong Malaria Elimination (MME) programme is an initiative aimed at supporting Greater Mekong Subregion (GMS) countries – Cambodia, Lao People's...

Eradicating cervical cancer in Thailand: A journey of hope and progress

Thailand has made significant progress in cervical cancer control and is on track to achieve the 90-70-90 targets by 2030, particularly through HPV vaccination...

Mekong Malaria Elimination Programme epidemiology summary, volume 29, January–March 2025

The Mekong Malaria Elimination (MME) programme is an initiative aimed at supporting Greater Mekong Subregion (GMS) countries – Cambodia, Lao People's...

Mekong Malaria Elimination Programme epidemiology summary, volume 28, October-December 2024

The Mekong Malaria Elimination (MME) programme is an initiative aimed at supporting Greater Mekong Subregion (GMS) countries – Cambodia, Lao People's...

ข้อเรียกร้องเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า

Overview

บุหรี่ไฟฟ้า[1] มีสารนิโคตินทำให้เสพติดรุนแรงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและรสชาติที่น่าดึงดูด โดยทำการตลาดเชิงรุกซึ่งมุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชน จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างกว้างขวางในหมู่เด็กและวัยรุ่น โดยมีอัตราการใช้สูงกว่าผู้ใหญ่ในหลายประเทศ

บุหรี่ไฟฟ้ามักถูกโฆษณาว่าเป็นทางเลือกที่มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน การค้า (การขาย การนำเข้า การจำหน่าย หรือการผลิต) บุหรี่ไฟฟ้าในฐานะสินค้าชนิดหนึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประโยชน์ทางสาธารณสุขในการช่วยเลิกบุหรี่มวน แต่กลับมีหลักฐานที่น่าตกใจเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพของประชากรเพิ่มมากขึ้น

จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและเสพติดนิโคติน ควบคู่ไปกับการมีแนวทางที่ครอบคลุมในการควบคุมยาสูบที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ

ในกรณีที่ประเทศมีการห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้า ประเทศเหล่านั้นควรต้องการดำเนินการอย่างเข้มงวด รวมถึงมีมาตรการติดตามและเฝ้าระวังที่จะช่วยให้มีข้อมูลอัตราการใช้และรูปแบบการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นปัจจุบัน อีกทั้งยังควรมีมาตรการเสริม เช่น การห้ามการโฆษณา การส่งเสริมการขาย และการให้ทุนสนับสนุน (รวมถึงการทำการตลาดดิจิทัล) และมีมาตรการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพ

ในกรณีที่ประเทศมีการอนุญาตให้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าในเชิงพาณิชย์ ประเทศเหล่านั้นจำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งครอบคลุมประเด็นเหล่านี้เป็นอย่างน้อย

  • ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อลดความน่าดึงดูดและอันตรายต่อประชากร ซึ่งรวมถึง:

    – การห้ามใช้สารปรุงแต่งรสทั้งหมด รวมถึงเมนทอลและสารสังเคราะห์เมนทอล

    – การห้ามใช้รูปลักษณะที่น่าดึงดูดและ/หรือรูปแบบการส่งเสริมการขายที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอและบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ เช่น เช่น สีหรือคุณลักษณะของสี คำอธิบายที่น่าสนใจ รวมถึงชื่อ

    – การควบคุมคุณลักษณะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการผลิตภัณฑ์ได้หลังการขาย

    – การจำกัดความเข้มข้นและปริมาณของนิโคติน เพื่อลดความเสี่ยงในการเสพติด

    – การกำหนดปริมาตรสูงสุดสำหรับตลับบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อจำกัดการสัมผัสกับสารพิษ

    – การกำหนดพลังงานแบตเตอรี่สูงสุด เพื่อจำกัดการปล่อยนิโคตินและสารพิษ

    – การห้ามคุณสมบัติที่อนุญาตให้อุปกรณ์ส่งข้อมูลไปยังและจากบุคคลที่สาม (รวมถึงผู้ผลิต) เช่น การเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์ที่สามารถใช้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดของภูมิประเทศที่มีการใช้งาน หรือเพื่อควบคุมผลิตภัณฑ์จากระยะไกล

    – การห้ามสารเติมแต่งที่มีคุณสมบัติเป็นสารก่อมะเร็ง สารก่อกลายพันธุ์ และเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์

  • ปกป้องสาธารณชนจากการกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดหรือหลอกลวง เช่น การกล่าวอ้างที่เป็นเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพในการเลิกบุหรี่
  • ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็ก ควบคุมการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงที่เด็กจะเข้าถึง และบังคับใช้กฎระเบียบเหล่านี้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
  • ปรับใช้มาตรการควบคุมยาสูบกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการลดการผลิตและความต้องการตามแนวทางของกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC)
  • เสริมสร้างการติดตามและการเฝ้าระวังเพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคและรูปแบบการใช้ บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นปัจจุบัน (รวมถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าคู่กับบุหรี่มวน และการใช้ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าบุหรี่มวนและผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆไปพร้อมกัน) เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการควบคุม
  • เสริมสร้างความเข้มแข็งในการบังคับใช้กฎระเบียบ เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการข้างต้นมีประสิทธิผล
  • ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากับสาธารณะ

ไม่ว่าประเทศนั้นๆ จะห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้าหรืออนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์หรือไม่ก็ตาม การดำเนินมาตรการเหล่านี้ควรทำควบคู่ไปกับมาตรการสร้างแรงจูงใจและช่วยเหลือผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบให้เลิกใช้ยาสูบโดยใช้วิธีการที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลและมีประสิทธิภาพ

ยุทธศาสตร์การเลิกบุหรี่นั้นควรพิจารณาข้อมูลด้านประสิทธิภาพจากหลักฐานที่ดีที่สุด ซึ่งสอดคล้องกันกับมาตรการควบคุมยาสูบอื่นๆ และอยู่ภายใต้การติดตามและประเมินผล จากหลักฐานวิชาการที่มีในปัจจุบัน ไม่แนะนำให้รัฐบาลอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่ รัฐบาลใดๆ ที่ดำเนินยุทธศาตร์การเลิกบุหรี่โดยใช้บุหรี่ไฟฟ้าควรต้องควบคุมเงื่อนไขในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีภาวะบ่งชี้ทางคลินิกที่เหมาะสม และควบคุมผลิตภัณฑ์ในฐานะยา (รวมถึงการต้องได้รับอนุญาตทางการค้าว่าเป็นยา) การตัดสินใจใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์การช่วยเลิกบุหรี่ ถึงแม้จะอยู่ในรูปแบบที่ได้รับการควบคุมก็ควรเกิดขึ้นหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงปัจจัยต่างๆ เช่น บริบทของประเทศ ความเสี่ยงในการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และกลยุทธ์การช่วยเลิกบุหรี่รูปแบบอื่นๆ ที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ

ข้อเรียกร้องฉบับนี้ องค์การอนามัยโลกจัดทำขึ้นจากการประเมินหลักฐานทางวิชาการที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานที่มีเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของเด็ก วัยรุ่น และผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ องค์การอนามัยโลกจะยังคงติดตามและประเมินหลักฐานเพิ่มเติมตามความจำเป็นต่อไป


[1] คำว่าบุหรี่ไฟฟ้าใช้ในที่นี้เพื่ออ้างอิงถึงรูปแบบต่างๆ ของระบบการนำส่งนิโคตินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic nicotine delivery systems: ENDS) และระบบการนำส่งแบบไม่มีนิโคตินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic non-nicotine delivery systems: ENNDS) เช่น ไปป์อิเล็กทรอนิกส์ ชิชาอิเล็กทรอนิกส์ และซิการ์ไฟฟ้า) เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย ENDS และ ENNDS ทั้งหมด (เช่น รวมถึง e-liquid และอุปกรณ์) จะอยู่ภายในขอบเขตของข้อเรียกร้องฉบับนี้

 

WHO Team
WHO Headquarters (HQ)