ข้อเรียกร้องเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า

Overview
บุหรี่ไฟฟ้า[1] มีสารนิโคตินทำให้เสพติดรุนแรงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและรสชาติที่น่าดึงดูด โดยทำการตลาดเชิงรุกซึ่งมุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชน จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างกว้างขวางในหมู่เด็กและวัยรุ่น โดยมีอัตราการใช้สูงกว่าผู้ใหญ่ในหลายประเทศ
บุหรี่ไฟฟ้ามักถูกโฆษณาว่าเป็นทางเลือกที่มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน การค้า (การขาย การนำเข้า การจำหน่าย หรือการผลิต) บุหรี่ไฟฟ้าในฐานะสินค้าชนิดหนึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประโยชน์ทางสาธารณสุขในการช่วยเลิกบุหรี่มวน แต่กลับมีหลักฐานที่น่าตกใจเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพของประชากรเพิ่มมากขึ้น
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและเสพติดนิโคติน ควบคู่ไปกับการมีแนวทางที่ครอบคลุมในการควบคุมยาสูบที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ
ในกรณีที่ประเทศมีการห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้า ประเทศเหล่านั้นควรต้องการดำเนินการอย่างเข้มงวด รวมถึงมีมาตรการติดตามและเฝ้าระวังที่จะช่วยให้มีข้อมูลอัตราการใช้และรูปแบบการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นปัจจุบัน อีกทั้งยังควรมีมาตรการเสริม เช่น การห้ามการโฆษณา การส่งเสริมการขาย และการให้ทุนสนับสนุน (รวมถึงการทำการตลาดดิจิทัล) และมีมาตรการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพ
ในกรณีที่ประเทศมีการอนุญาตให้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าในเชิงพาณิชย์ ประเทศเหล่านั้นจำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งครอบคลุมประเด็นเหล่านี้เป็นอย่างน้อย
- ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อลดความน่าดึงดูดและอันตรายต่อประชากร ซึ่งรวมถึง:
– การห้ามใช้สารปรุงแต่งรสทั้งหมด รวมถึงเมนทอลและสารสังเคราะห์เมนทอล
– การห้ามใช้รูปลักษณะที่น่าดึงดูดและ/หรือรูปแบบการส่งเสริมการขายที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอและบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ เช่น เช่น สีหรือคุณลักษณะของสี คำอธิบายที่น่าสนใจ รวมถึงชื่อ
– การควบคุมคุณลักษณะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการผลิตภัณฑ์ได้หลังการขาย
– การจำกัดความเข้มข้นและปริมาณของนิโคติน เพื่อลดความเสี่ยงในการเสพติด
– การกำหนดปริมาตรสูงสุดสำหรับตลับบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อจำกัดการสัมผัสกับสารพิษ
– การกำหนดพลังงานแบตเตอรี่สูงสุด เพื่อจำกัดการปล่อยนิโคตินและสารพิษ
– การห้ามคุณสมบัติที่อนุญาตให้อุปกรณ์ส่งข้อมูลไปยังและจากบุคคลที่สาม (รวมถึงผู้ผลิต) เช่น การเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์ที่สามารถใช้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดของภูมิประเทศที่มีการใช้งาน หรือเพื่อควบคุมผลิตภัณฑ์จากระยะไกล
– การห้ามสารเติมแต่งที่มีคุณสมบัติเป็นสารก่อมะเร็ง สารก่อกลายพันธุ์ และเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์
- ปกป้องสาธารณชนจากการกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดหรือหลอกลวง เช่น การกล่าวอ้างที่เป็นเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพในการเลิกบุหรี่
- ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็ก ควบคุมการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงที่เด็กจะเข้าถึง และบังคับใช้กฎระเบียบเหล่านี้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
- ปรับใช้มาตรการควบคุมยาสูบกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการลดการผลิตและความต้องการตามแนวทางของกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC)
- เสริมสร้างการติดตามและการเฝ้าระวังเพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคและรูปแบบการใช้ บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นปัจจุบัน (รวมถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าคู่กับบุหรี่มวน และการใช้ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าบุหรี่มวนและผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆไปพร้อมกัน) เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการควบคุม
- เสริมสร้างความเข้มแข็งในการบังคับใช้กฎระเบียบ เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการข้างต้นมีประสิทธิผล
- ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากับสาธารณะ
ไม่ว่าประเทศนั้นๆ จะห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้าหรืออนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์หรือไม่ก็ตาม การดำเนินมาตรการเหล่านี้ควรทำควบคู่ไปกับมาตรการสร้างแรงจูงใจและช่วยเหลือผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบให้เลิกใช้ยาสูบโดยใช้วิธีการที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลและมีประสิทธิภาพ
ยุทธศาสตร์การเลิกบุหรี่นั้นควรพิจารณาข้อมูลด้านประสิทธิภาพจากหลักฐานที่ดีที่สุด ซึ่งสอดคล้องกันกับมาตรการควบคุมยาสูบอื่นๆ และอยู่ภายใต้การติดตามและประเมินผล จากหลักฐานวิชาการที่มีในปัจจุบัน ไม่แนะนำให้รัฐบาลอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่ รัฐบาลใดๆ ที่ดำเนินยุทธศาตร์การเลิกบุหรี่โดยใช้บุหรี่ไฟฟ้าควรต้องควบคุมเงื่อนไขในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีภาวะบ่งชี้ทางคลินิกที่เหมาะสม และควบคุมผลิตภัณฑ์ในฐานะยา (รวมถึงการต้องได้รับอนุญาตทางการค้าว่าเป็นยา) การตัดสินใจใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์การช่วยเลิกบุหรี่ ถึงแม้จะอยู่ในรูปแบบที่ได้รับการควบคุมก็ควรเกิดขึ้นหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงปัจจัยต่างๆ เช่น บริบทของประเทศ ความเสี่ยงในการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และกลยุทธ์การช่วยเลิกบุหรี่รูปแบบอื่นๆ ที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ
ข้อเรียกร้องฉบับนี้ องค์การอนามัยโลกจัดทำขึ้นจากการประเมินหลักฐานทางวิชาการที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานที่มีเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของเด็ก วัยรุ่น และผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ องค์การอนามัยโลกจะยังคงติดตามและประเมินหลักฐานเพิ่มเติมตามความจำเป็นต่อไป
[1] คำว่าบุหรี่ไฟฟ้าใช้ในที่นี้เพื่ออ้างอิงถึงรูปแบบต่างๆ ของระบบการนำส่งนิโคตินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic nicotine delivery systems: ENDS) และระบบการนำส่งแบบไม่มีนิโคตินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic non-nicotine delivery systems: ENNDS) เช่น ไปป์อิเล็กทรอนิกส์ ชิชาอิเล็กทรอนิกส์ และซิการ์ไฟฟ้า) เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย ENDS และ ENNDS ทั้งหมด (เช่น รวมถึง e-liquid และอุปกรณ์) จะอยู่ภายในขอบเขตของข้อเรียกร้องฉบับนี้