ต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องเด็กจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า

วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ข่าวประชาสัมพันธ์

15 December 2023
News release

จำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อปกป้องสุขภาพของเด็กและผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และลดอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อสุขภาพของประชาชน บุหรี่ไฟฟ้าในฐานะสินค้าไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิผลในการช่วยเลิกบุหรี่ในระดับประชากร แต่กลับพบว่ามีข้อมูลที่น่าตกใจซึ่งเป็นผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพของประชากรขึ้นมาแทน

บุหรี่ไฟฟ้าได้ถูกวางขายในตลาดอย่างเสรีและทำการตลาดอย่างจริงจังกับคนหนุ่มสาว ในปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 34 ประเทศที่ห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้า ในขณะที่ 88 ประเทศไม่กำหนดอายุขั้นต่ำในการซื้อบุหรี่ไฟฟ้า และ 74 ประเทศที่ไม่มีกฎระเบียบสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายเหล่านี้

 

“เด็กๆ นั้นตกเป็นเป้าหมายและติดกับดักของบุหรี่ไฟฟ้า โดยการลองสูบและอาจเสพติดนิโคตินตั้งแต่อายุน้อยๆ” นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลกกล่าว “ผมขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องพลเมือง โดยเฉพาะเด็กๆ และเยาวชนของพวกเขา”

บุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินเป็นสารเสพติดรุนแรงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แม้ว่าผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวจะยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างแน่ชัด แต่ก็มีหลักฐานที่ชัดเจนแล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้าก่อให้เกิดสารพิษ ซึ่งบางชนิดเป็นที่รู้กันว่าก่อให้เกิดมะเร็ง และบางชนิดเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดปกติของหัวใจและปอด การใช้บุหรี่ไฟฟ้ายังส่งผลต่อการพัฒนาสมองและนำไปสู่ความผิดปกติในการเรียนรู้ของเด็ก การที่ทารกในครรภ์ได้รับบุหรี่ไฟฟ้าอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ การสัมผัสกับควันจากบุหรี่ไฟฟ้ายังก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นอีกด้วย

“บุหรี่ไฟฟ้ามุ่งเป้าไปที่เด็กผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและผู้ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากบนสื่อเหล่านั้น บุหรี่ไฟฟ้ามีรสชาติอย่างน้อยกว่า 16,000 รสชาติ บุหรี่ไฟฟ้าบางส่วนใช้ตัวการ์ตูนและมีดีไซน์เก๋ไก๋ดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ สถิติการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยพบว่าอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนั้นสูงเกินกว่าผู้ใหญ่ในหลายประเทศ” นายแพทย์รูดิเกอร์ เครช ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสุขภาพขององค์การอนามัยโลกกล่าว

ในทุกๆ ภูมิภาคขององค์การอนามัยโลกพบว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กอายุ 13-15 ปีนั้นอยู่ในอัตราที่สูงกว่าผู้ใหญ่ ประเทศแคนาดาพบว่าอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กอายุ 16-19 ปีเพิ่มขึ้นสองเท่าระหว่างปี 2560-2565 และในอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) พบว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นเยาว์เพิ่มขึ้นสามเท่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา

 

แม้แต่การพบเห็นเนื้อหาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าบนโซเชียลมีเดียเพียงช่วงสั้นๆ ก็อาจมีผลต่อการเพิ่มความอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เช่นเดียวกับทัศนคติเชิงบวกต่อบุหรี่ไฟฟ้าที่มากขึ้น ผลการศึกษาหลายชิ้นในช่วงที่ผ่านมาพบตรงกันว่าคนหนุ่มสาวที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่ต่อไปในวัยผู้ใหญ่มากขึ้นเกือบสามเท่า

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและป้องกันการติดนิโคติน ซึ่งจะต้องทำควบคู่ไปกับแนวทางที่ครอบคลุมในการควบคุมยาสูบ และดำเนินการอย่างเหมาะสมกับบริบทของประเทศ

 

  • ในกรณีที่ประเทศมีการห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้า ดำเนินมาตรการห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด และดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนมาตรการด้านสาธารณสุข และให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด   
  • ในกรณีที่ประเทศอนุญาตให้มีการค้า (การขาย การนำเข้า การจัดจำหน่าย และการผลิต) บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้า ควรมีการกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อลดความน่าดึงดูดและอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่จะมีต่อประชากร รวมถึงการห้ามรสชาติทั้งหมด การจำกัดความเข้มข้นและคุณภาพของนิโคติน และมีการเก็บภาษี

ยุทธศาสตร์การเลิกสูบบุหรี่นั้นควรพิจารณาจากหลักฐานด้านประสิทธิภาพ ควรต้องสอดคล้องกับมาตรการควบคุมยาสูบอื่นๆ และอยู่ภายใต้การติดตามและประเมินผล จากหลักฐานในปัจจุบัน องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้รัฐบาลอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยในการเลิกบุหรี่

รัฐบาลใดๆ ที่ดำเนินยุทธศาสตร์การเลิกบุหรี่โดยใช้บุหรี่ไฟฟ้าควรควบคุมเงื่อนไขในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีภาวะบ่งชี้ทางคลินิกที่เหมาะสม และควบคุมผลิตภัณฑ์ในฐานะยา (รวมถึงการต้องได้รับอนุญาตทางการค้าว่าเป็นยา) การตัดสินใจใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์การช่วยเลิกบุหรี่ ถึงแม้จะอยู่ในรูปแบบที่ได้รับการควบคุมก็ควรเกิดขึ้นหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงปัจจัยต่างๆ เช่น บริบทของประเทศ ความเสี่ยงในการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และกลยุทธ์การช่วยเลิกบุหรี่รูปแบบอื่นๆ ที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ

อุตสาหกรรมยาสูบมีกำไรจากการทำลายสุขภาพ และใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้เพื่อหาโอกาสเข้าไปนั่งในเวทีกำหนดนโยบายร่วมกับรัฐบาลเพื่อล็อบบี้ต่อต้านนโยบายด้านสุขภาพ อุตสาหกรรมยาสูบให้ทุนและสนับสนุนการสร้างหลักฐานเท็จเพื่อโต้แย้งและกล่าวอ้างว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ลดอันตราย ขณะเดียวกันก็ทำการโฆษณาผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างหนักกับเด็กและผู้ไม่สูบบุหรี่ และยังคงขายบุหรี่นับพันล้านมวนต่อไป

จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยพิจารณาจากหลักฐานที่มีเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและวัยรุ่น และอันตรายต่อสุขภาพ