Coronavirus disease (COVID-19) questions and answers on vaccine safety

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) : ความปลอดภัยของวัคซีน
19 กุมภาพันธ์ 2564 | ตอบข้อสงสัย
ปรับปรุงเมื่อ 13 มิถุนายน 2564 

**เอกสารนี้ประกอบไปด้วยคําแนะนําฉบับเร่งด่วน ทั้งนี้หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เอกสารนี้จะมีการปรับปรุงในภายหลัง **

ข้อมูลฉบับภาษาอังกฤษได้รับการปรับปรุงเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2564 ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์การอนามัยโลกจะปรับปรุงเนื้อหาในการตอบข้อสงสัยนี้ให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเมื่อเรามีข้อมูลมากขึ้น

หากต้องการข้อมูลล่าสุดซึ่งเป็นภาษาอังกฤษสามารถดูได้ที่นี่


เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวัคซีนโควิด
19 ปลอดภัย

วัคซีนโควิด 19 ทุกตัวจะได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยด้วยระบบการป้องกันที่เคร่งครัด ก่อนที่จะผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานกำกับดูแลระดับประเทศ วัคซีนป้องกันโควิด 19 จะต้องผ่านการทดลองทางการแพทย์ที่เข้มงวดเพื่อพิสูจน์ว่าวัคซีนแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยและมีประสิทธิผลตามที่ยอมรับในระดับสากล

ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ในระดับที่สูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนส่งผลให้การวิจัย พัฒนา และรับรองวัคซีนป้องกันโควิด 19 นั้นสำเร็จได้ด้วยเวลาที่เร็วเป็นประวัติการณ์เพื่อตอบสนองความต้องการเร่งด่วนต่อวัคซีนโควิด 19 ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง องค์การอนามัยโลกและหน่วยงานกำกับดูแลจะติดตามการใช้วัคซีนโควิด 19 ทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับวัคซีนอื่น ๆ เพื่อระบุและรับมือปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าวัคซีนจะยังคงปลอดภัยสำหรับการใช้งานทั่วโลก


ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด
19 คืออะไรบ้าง

เฉกเช่นเดียวกับวัคซีนอื่น ๆ วัคซีนโควิด 19 นั้นสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงเป็นเวลาสั้น ๆ ได้ เช่น ไข้ต่ำ หรืออาการปวดและรอยแดงบนผิวหนังบริเวณที่ฉีด ส่วนใหญ่แล้วปฏิกิริยาที่มีต่อวัคซีนจะไม่รุนแรงและหายไปเองภายใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงจากวัคซีนที่รุนแรงและคงอยู่นานกว่าก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่พบได้น้อยมาก ทั้งนี้วัคซีนจะได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องตราบเท่าที่ยังมีการใช้งาน เพื่อตรวจจับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดได้น้อย และดำเนินมาตรการเพื่อจำกัดการเกิดขึ้นของเหตุเหล่านั้น

ผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด 19 ที่มีการรายงานนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับเบาถึงกลางและคงอยู่เพียงระยะสั้น เช่น ไข้ เหนื่อยล้า ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ท้องร่วง และปวดบริเวณที่ฉีดยา อัตราการเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามวัคซีนแต่ละชนิด

ส่วนใหญ่แล้ว เราสามารถบรรเทาผลข้างเคียงเหล่านี้ได้โดยการพักผ่อน ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และใช้ยาพาราเซตามอล/อะเซตามิโนเฟนสำหรับอาการข้างเคียงโดยทั่วไป ให้ติดต่อแพทย์หากอาการกดเจ็บ ณ บริเวณที่ฉีดยารุนแรงขึ้นหลังจากผ่านไปแล้ว 24 ชั่วโมง หรือผลข้างเคียงยังคงอยู่แม้จะผ่านไปแล้ว 2-3 วัน หากคุณหายใจลำบาก เจ็บบริเวณหน้าอก มึนงง พูดไม่ได้หรือขยับร่างกายไม่ได้ ให้ติดต่อแพทย์ทันที


วัคซีนโควิด
19 เกี่ยวข้องกับอาการแพ้อย่างไร

บุคคลสามารถมีอาการแพ้รุนแรงต่อวัคซีนโควิด 19 บางตัวได้ แต่พบได้ยาก อาการแพ้รุนแรง เช่น ภาวะแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (anaphylaxis) เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ยากและอาจเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะกับวัคซีนใด ๆ สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยง เช่น เคยมีอาการแพ้หลังจากรับวัคซีนโดสแรก หรือเคยแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนมาก่อน อาจต้องมีมาตรการป้องกัน

องค์การอนามัยโลกแนะนำให้บุคลกรด้านสาธารณสุขประเมินความเสี่ยงของบุคคลในการเกิดอาการแพ้รุนแรงก่อนที่จะฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยสอบถามเกี่ยวกับปฏิกริยาต่อวัคซีน หรือการแพ้ส่วนประกอบของวัคซีน บุคลากรที่ทำหน้าที่ฉีดวัคซีนทุกคนควรได้รับการฝึกอบรมให้มีความรู้เกี่ยวกับการแพ้รุนแรง และทราบวิธีดูแลผู้ป่วยในกรณีที่ปฏิกิริยาดังกล่าวเกิดขึ้น

หน่วยงานระดับชาติและหน่วยงานระหว่างประเทศ รวมถึงองค์การอนามัยโลก จะติดตามตรวจสอบการใช้วัคซีนโควิด 19 อย่างใกล้ชิดโดยเพื่อตรวจหาผลข้างเคียงที่ร้ายแรง รวมถึงผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิด ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจและจัดการความเสี่ยงของอาการแพ้หรือผลข้างเคียงที่ร้ายแรงอื่น ๆ จากวัคซีนโควิด 19 ที่อาจตรวจไม่พบในระหว่างการทดลองทางการแพทย์ได้ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับวัคซีนอย่างปลอดภัย


ควรใช้ยาละลายลิ่มเลือด
2-3 วันก่อนรับวัคซีนหรือไม่ เนื่องจากมีรายงานการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังจากรับวัคซีน

ไม่ควร คุณไม่ควรใช้ยาละลายลิ่มเลือด นอกเสียจากว่าแพทย์จะให้คุณใช้ยานั้นเพื่อรักษาโรคที่มีอยู่ก่อนแล้ว วัคซีนโควิด 19 ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรแจ้งให้ผู้ฉีดวัคซีนทราบว่าคุณใช้ยาอะไรอยู่บ้างก่อนที่จะรับวัคซีน


จะดำเนินการอย่างไร เมื่อได้รับรายงานเรื่องผลข้างเคียง

เช่นเดียวกับวัคซีนทุกชนิด วัคซีนโควิด 19 ก็ต้องได้รับการติดตามตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพอย่างใกล้ชิดเมื่อมีการนำไปใช้ในแต่ละประเทศ หากมีการรายงานถึงปัญหาหลังการฉีดวัคซีน ก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยระบบสาธารณสุขของประเทศ

จากการตรวจสอบนั้น น้อยมากที่จะพบว่าปัญหาสุขภาพที่ได้รับรายงานเป็นผลมาจากวัคซีน ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นโดยบังเอิญและอาจไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนเลย หรือบางครั้งเกี่ยวข้องกับวิธีการจัดเก็บ ขนส่ง หรือวิธีการฉีดวัคซีน ข้อผิดพลาดดังกล่าวสามารถป้องกันได้โดยการฝึกอบรมบุคลากรด้านสุขภาพให้เข้มข้นขึ้น และปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานของวัคซีน

ในไม่กี่กรณีซึ่งสงสัยว่าอาการไม่พึงประสงค์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับวัคซีน อาจพิจารณาระงับการใช้วัคซีนในระหว่างการประเมินสถานการณ์ และจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์และกำหนดมาตรการแก้ไข องค์การอนามัยโลกทำงานร่วมกับผู้ผลิตวัคซีน บุคลากรสาธารณสุข นักวิจัย และพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามตรวจสอบความกังวลด้านความปลอดภัยและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


วัคซีนโควิด
19 สามารถถูกเรียกคืนได้ในกรณีใดบ้าง

การเรียกคืนหรือการถอนวัคซีนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นเหตุการณ์ที่พบได้ยาก โดยปกติแล้วผู้ผลิตวัคซีนเองจะเป็นผู้เรียกคืนวัคซีนโดยสมัครใจก่อนที่เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ใด ๆ จะได้รับการรายงานเสียอีก ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบการผลิตวัคซีนอย่างต่อเนื่องอาจชี้ให้เห็นความผิดปกติบางอย่างซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนบางชุดการผลิต (batch) เสื่อม ในกรณีนี้ ผู้ที่ได้รับวัคซีนจากชุดนั้นอาจต้องรับวัคซีนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการปกป้องตามที่ควรจะเป็น


องค์การอนามัยโลกจะรายงานผลข้างเคียงร้ายแรงที่เกียวข้องกับวัคซีนโควิด
19 ทั้งทียังสงสัยและที่ยืนยันแล้ว ให้สาธารณะทราบอย่างไร

เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่น่าสงสัยที่องค์การอนามัยโลกได้รับรายงานจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระเข้าร่วมด้วย องค์การอนามัยโลกจะแถลงผลการประเมินเหล่านี้ทางเว็บไซต์

นอกจากนั้น องค์การอนามัยโลกยังประสานงานกับบุคลากรสาธารณสุขระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับชาติเพื่อตรวจสอบข้อกังวลด้านความปลอดภัยของวัคซีนและให้คำแนะนำในการดำเนินการขั้นต่อไป ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ผ่าน Vaccine Safety Net ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลดิจิทัลระหว่างประเทศเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนที่ได้รับอนุมัติโดยองค์การอนามัยโลก


ผู้ที่รับวัคซีนโควิด
19 แล้วจะยังสามารถติดเชื้อได้อีกหรือไม่

แม้ว่าวัคซีนโควิด 19 หลายตัวจะมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและอาการหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ไม่มีวัคซีนใดที่สามารถให้การป้องกันการติดเชื้อได้ 100% ดังนั้นย่อมมีคนจำนวนน้อยที่สามารถติดเชื้อโควิด 19 ได้แม้จะได้รับวัคซีนไปแล้ว

นอกจากลักษณะเฉพาะของวัคซีนแต่ละตัวแล้ว ปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ ภาวะทางสุขภาพโดยรวม การสัมผัสเชื้อโควิด 19 มาก่อน การติดเชื้อในปัจจุบัน หรือการกลายพันธุ์ของไวรัส ก็สามารถกระทบต่อประสิทธิผลของวัคซีนได้ นอกจากนี้ เรายังไม่ทราบว่าภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด 19 ต่าง ๆ จะคงอยู่ได้นานแค่ไหน นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่แม้ว่าจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้ว เราก็ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคต่าง ๆ ที่จะช่วยลดการติดเชื้อได้ต่อไป เช่น การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย และการล้างมือ

ในช่วง 14 วันแรกหลังการรับวัคซีน ระดับการป้องกันโรคในร่างกายจะยังไม่สูงมากนักแต่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น สำหรับวัคซีนแบบโดสเดียว โดยทั่วไปแล้วการป้องกันจะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หลังการรับวัคซีน สำหรับวัคซีนแบบ 2 โดส ต้องได้รับทั้ง 2 โดสให้ครบเพื่อให้ได้ภูมิคุ้มกันในระดับสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้

แม้ว่าวัคซีนโควิด- 19 จะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต แต่เราก็ยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น เพื่อให้ตัวคุณเองและผู้อื่นปลอดภัยแม้ว่าจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนในประเทศของคุณแล้ว ขอให้คุณยังคงรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร ไอหรือจามใส่ข้อศอก หมั่นล้างมือ และสวมหน้ากาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในที่ปิด พื้นที่แออัดหรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก ปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานท้องถิ่นเสมอตามสถานการณ์และความเสี่ยงในพื้นที่ของคุณ


ใครที่ไม่ควรรับวัคซีนโควิด
19

แพทย์คือผู้ที่ให้คำแนะนำได้ดีที่สุดว่าเราควรรับวัคซีนป้องกันโควิด 19 หรือไม่ มีภาวะทางสุขภาพเพียงไม่กี่ประการที่ทำให้บุคคลไม่ควรเข้ารับวัคซีน จากหลักฐานที่มีอยู่ ผู้ที่มีประวัติการแพ้อย่างรุนแรงต่อส่วนประกอบใด ๆ ก็ตามของวัคซีนโควิด 19 ไม่ควรรับวัคซีนเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

หากคุณกำลังป่วยหรือมีอาการของโควิด 19 คุณสามารถรับวัคซีนได้หลังจากที่อาการหลักของโรคหมดไปแล้ว

นอกเหนือจากคำแนะนำทั่วไปข้างต้นแล้ว วัคซีนแต่ละชนิดอาจมีข้อพิจารณาเฉพาะสำหรับประชากรบางกลุ่ม และผู้ที่มีภาวะทางสุขภาพบางอย่าง


สตรีที่มีครรภ์ หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ และแม่ที่ให้นมบุตร สามารถรับวัคซีนโควิด
19 ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

ในระหว่างนี้ องค์การอนามัยโลกแนะนำให้สตรีมีครรภ์พิจารณาการรับวัคซีนป้องกันโควิด 19 โดยการประเมินประโยชน์และความเสี่ยง เพื่อที่จะทำการประเมินดังกล่าว สตรีมีครรภ์ควรได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของโควิด 19 ประโยชน์ของการรับวัคซีนโดยพิจารณาจากสถานการณ์ด้านระบาดวิทยาในท้องถิ่น และข้อมูลความปลอดภัยของวัคซีนในสตรีมีครรภ์ที่ยังคงมีอยู่อย่างจำกัด องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้ใช้ชุดตรวจครรภ์ก่อนฉีดวัคซีน และไม่แนะนำให้ชะลอการตั้งครรภ์หรือยุติการตั้งครรภ์เนื่องจากการฉีดวัคซีน

สตรีที่ให้นมบุตรสามารถรับวัคซีนที่ผ่านการประเมินโดย “คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกัน​ขององค์การอนามัยโลก” (WHO's Strategic Advisory Group of Experts – SAGE) ได้ องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้หยุดให้นมบุตรหลังฉีดวัคซีน และจะยังคงเดินหน้าหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบคำแนะนำเชิงนโยบายในประเด็นนี้ต่อไป


สตรีที่กำลังมีประจำเดือนควรรับวัคซีนโควิด
19 หรือไม่

สตรีสามารถรับวัคซีนได้ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงใดของรอบเดือน


วัคซีนชนิด
mRNA ปลอดภัยหรือไม่ เราจะมั่นใจในเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างไร

เทคโนโลยีวัคซีน mRNA สำหรับโควิด 19 ผ่านการประเมินด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด การทดลองทางการแพทย์พบว่าวัคซีนชนิด mRNA สามารถสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มต่อโรคได้สูง เทคโนโลยีนี้ได้รับการศึกษามาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ทั้งในบริบทของการพัฒนาวัคซีนไวรัสซิกา วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้ วัคซีนชนิด mRNA นั้นไม่ใช่วัคซีนเชื้อเป็น และไม่กระทบต่อรหัสพันธุกรรมของมนุษย์


องค์การอนามัยโลกจะทำอย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการติดตามตรวจสอบและรับมือเรื่องความปลอดภัย เมื่อวัคซีนโควิด
19 ถูกนำไปใช้

มีการติดตามตรวจสอบความปลอดภัยของวัคซีนทั้งในระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโลก และเพื่อให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติมาตรฐานสำหรับโครงการฉีดวัคซีนระดับชาติ องค์การอนามัยโลกสนับสนุนการจัดตั้งระบบติดตามตรวจสอบความปลอดภัยสำหรับวัคซีนโควิด 19 ในทุกประเทศ หลังจากที่ประเทศได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนโควิด 19 องค์การอนามัยโลกจะทำงานร่วมกับผู้ผลิตวัคซีน บุคลากรสาธารณสุข และพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามข้อกังวลด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ข้อกังวลด้านความปลอดภัยบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นจะได้รับการประเมินโดยองค์การอนามัยโลกและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระ (คณะที่ปรึกษาระดับโลกด้านความปลอดภัยของวัคซีน หรือ GACVS) ร่วมกับหน่วยงานระดับประเทศที่เกี่ยวข้อง