Coronavirus disease (COVID-19) questions and answers on Ventilation and air conditioning
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) : การระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ
**เอกสารนี้ประกอบไปด้วยคําแนะนําฉบับเร่งด่วน ทั้งนี้หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เอกสารนี้จะมีการปรับปรุงในภายหลัง **
ข้อมูลฉบับภาษาอังกฤษได้รับการปรับปรุงเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 – ข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด 19 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์การอนามัยโลกจะปรับปรุงเนื้อหาในการตอบข้อสงสัยนี้ให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเมื่อเรามีข้อมูลมากขึ้น
หากต้องการข้อมูลล่าสุดซึ่งเป็นภาษาอังกฤษสามารถดูได้ที่นี่
การระบายอากาศคืออะไรและช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด 19 ได้อย่างไร
การระบายอากาศ คือการทำให้มีอากาศสะอาดไหลเวียนเข้ามาภายในอาคาร ในขณะที่มีการถ่ายเทอากาศภายในออกไป ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาหรือพัฒนาคุณภาพอากาศ การระบายอากาศสามารถทำได้โดยวิธีธรรมชาติ (เช่น การเปิดหน้าต่าง) หรือโดยการติดตั้งระบบระบายอากาศ
การแพร่กระจายของโรคโควิด 19 เกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อผู้ติดเชื้ออยู่ใกล้ชิดหรือมีการสัมผัสโดยตรงกับผู้อื่น ความเสี่ยงของการแพร่กระจายไวรัสจะสูงขึ้นเมื่ออยู่ในพื้นที่แออัดหรือมีการระบายอากาศไม่ดี ซึ่งผู้คนใช้เวลาร่วมกันเป็นเวลานาน และต้องอยู่ใกล้ชิดกัน การเพิ่มการไหลเวียนอากาศภายในอาคารสามารถลดความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายภายในอาคารได้
การระบายอากาศไม่ใช่มาตรการที่จะทำเพียงลำพังแล้วได้ผล แต่ควรใช้ร่วมกับมาตรการอื่นๆ ไปพร้อมกัน เช่น การรักษาระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ และการไอหรือจามใส่ข้อพับแขน มาตรการเหล่านี้มีความสำคัญในการปกป้องคุณจากการติดเชื้อโควิด 19
หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอยู่ห่างไกลจากโรคโควิด 19 ได้ที่นี่
จะระบายอากาศในห้องด้วยวิธีธรรมชาติได้อย่างไร
เมื่ออยู่ภายในห้องร่วมกันกับผู้อื่น ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูทุกครั้งที่ทำได้ ตัวอย่างเช่น พยายามให้ลมพัดเข้าทางหน้าต่างด้านหนึ่งและพัดผ่านห้องไปออกทางหน้าต่างอีกด้านหนึ่ง
ใช้เครื่องปรับอากาศหรือระบบระบายอากาศอื่นๆ ได้หรือไม่
ระบบระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศ ใช้สำหรับรักษาอุณหภูมิและความชื้นภายในอาคารให้อยู่ในระดับที่สบายและดีต่อสุขภาพ
ระบบที่มีการบำรุงรักษาและใช้งานได้ดีสามารถช่วยลดการแพร่กระจายของโรคโควิด 19 ภายในอาคารได้ด้วยการเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของอากาศ ลดอากาศหมุนเวียนซ้ำ และเพิ่มการไหลเวียนของอากาศจากภายนอกสู่ภายใน ไม่ควรนำการตั้งค่าให้อากาศหมุนเวียนซ้ำถูกนำมาใช้ ระบบต่างๆ ควรได้รับการตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีการบำรุงรักษาและทำความสะอาด
จะพัฒนาเครื่องปรับอากาศที่บ้านได้อย่างไร
เครื่องปรับอากาศแบบไร้ท่อลม (ชนิดหมุนเวียนอากาศภายใน) เช่น ชนิดที่ใช้เครื่องเป่าลมเย็น และเครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วน ควรได้รับการตรวจสอบ บำรุงรักษา และทำความสะอาดตามคำแนะนำของผู้ผลิต ตรวจสอบไส้กรองอากาศของเครื่องและพิจารณาเปลี่ยนมาใช้เป็นชนิด MERV14/F8 หรือชนิดเทียบเท่าที่ใส่เข้าได้กับช่องใส่ไส้กรองอากาศ โดยการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ ทั้งนี้ ตัวเครื่องและไส้กรองควรได้รับการทำความสะอาดสม่ำเสมอตามคำแนะนำของผู้ผลิต
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
สามารถใช้พัดลมได้อย่างปลอดภัยในอาคารหรือไม่
การเป่าลมโดยตรงจากผู้ติดเชื้อไปยังผู้อื่นในพื้นที่ปิด เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง
หากโรคโควิด 19 กำลังแพร่ระบาดในชุมชน และไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้พัดลมตั้งพื้นหรือพัดลมตั้งโต๊ะได้ ให้พยายามเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อให้มีอากาศไหลเข้ามาจากภายนอก ซึ่งเป็นการลดโอกาสที่อากาศจะพัดโดยตรงจากคน (หนึ่งคนหรือหลายคน) ไปยังผู้อื่น
การใช้พัดลมแบบติดเพดานจะเพิ่มการไหลเวียนของอากาศจากภายนอก และลดปัญหาอากาศไม่ไหลเวียนภาย
ในอาคาร อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดหน้าต่างขณะใช้พัดลมแบบติดเพดาน เพื่อให้มีลมไหลเวียนเข้ามาจากภายนอกด้วย
จะทำให้ที่บ้านมีการระบายอากาศดีขึ้นอย่างไรหากมีผู้ป่วยและต้องแยกกักที่บ้าน
หากมีผู้ป่วยและต้องแยกกักที่บ้าน ให้ทำตามข้อควรระวังเหล่านี้
- ผู้ป่วยควรอยู่ในห้องแยกต่างหาก ถ้าไม่สามารถทำได้ ต้องรักษาระยะอย่างน้อย 1 เมตรจากผู้ป่วย ผู้ป่วยและทุกคนที่อยู่ห้องเดียวกันควรสวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์
- จัดให้มีการระบายอากาศที่ดีในห้องพักผู้ป่วย และในพื้นที่ส่วนรวม เปิดหน้าต่างหากทำได้และปลอดภัยเพียงพอ
- ใช้วิธีระบายอากาศด้วยการให้ลมเข้าทางหนึ่งและออกอีกทางหนึ่ง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ โดยเปิดหน้าต่างและประตูทั้งสองฝั่งของห้อง
- หากเป็นไปได้ ปิดกั้นไม่ให้อากาศจากห้องผู้ป่วยไหลเวียนไปยังส่วนอื่นของบ้าน
- หากเป็นไปได้ เลือกใช้ห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัวที่มีพัดลมระบายอากาศ ซึ่งควรเปิดไว้ที่ความแรงสูงสุด
- เพื่อเป็นการเสริม สามารถใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีไส้กรองชนิด MERV14/F8 อุปกรณ์ลักษณะนี้ช่วยพัฒนาคุณภาพอากาศได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้ทดแทนการระบายอากาศ
ดูเพิ่มเติมเรื่อง การดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
การระบายอากาศลดความเสี่ยงของการติดโรคโควิด 19 บนเครื่องบินได้อย่างไร
เครื่องบินส่วนใหญ่มีระบบกรองอากาศในห้องโดยสารที่เป็นชนิดใช้ไส้กรอง HEPA ซึ่งสามารถกำจัดเชื้อไวรัสและเชื้อโรคได้รวดเร็ว เป็นการลดระยะเวลาของการที่ผู้คนอาจสัมผัสเชื้อโรคติดต่อ เช่น ไวรัสหรือแบคทีเรียซึ่งออกมาทางการไอหรือจาม ระบบอากาศในห้องโดยสารออกแบบมาเพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อมีอากาศ จากภายนอก ร้อยละ 50 และ อากาศหมุนเวียนซ้ำที่ผ่านการกรองแล้ว ร้อยละ 50 ซึ่งเท่ากับว่าอากาศในเครื่องบินนั้นผ่านการฆ่าเชื้อ และปราศจากสิ่งเจือปน อย่างไรก็ตาม การระบายอากาศอย่างเพียงพอนั้นเป็นเพียงหนึ่งในมาตรการป้องกันความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโรคโควิด 19 ทั้งนี้ มาตรการสำคัญอื่นๆ ก็ยังคงต้องปฎิบัติไปพร้อมกันซึ่งรวมถึง การรักษาระยะห่าง การสวมหน้ากาก และการล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น
องค์การอนามัยโลกทำอะไรบ้างในประเด็นเรื่องการระบายอากาศในบริบทของโรคโควิด 19
ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 องค์การอนามัยโลกได้ให้ข้อแนะนำในแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการระบายอากาศ
ตั้งแต่ช่วงการระบาดในระยะแรก องค์การอนามัยโลกได้จัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญภายใต้ชื่อ Environmental and Engineering Control Expert Advisory Panel (ECAP) สำหรับโรคโควิด 19 เพื่อศึกษาทบทวนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และแนวปฏิบัติ และปรับปรุงข้อแนะนำด้านการควบคุมทางวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายสหวิชาชีพนี้ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ วิศวกร สถาปนิก ผู้เชี่ยวชาญด้าน Aerobiology และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม
ในเดือนมิถุนายน 2563 องค์การอนามัยโลกได้ออกแนวทางปฏิบัติเรื่องระบบการระบายอากาศและระบบปรับอากาศในบริบทของโรค
โควิด 19 คลิ๊กที่นี่ องค์การอนามัยโลกทำงานใกล้ชิดกับ World Meteorological Organization Joint Office for Climate and Health และ United States National Oceanic Atmospheric Administration (NOAA) ผ่านทางเครือข่าย Global Heat Health Information Network เพื่อพัฒนาและปรับปรุงแนวทางปฏิบัติ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 องค์การอนามัยโลกได้ตีพิมพ์แผนที่นำทางเพื่อพัฒนาการระบายอากาศ